สรุปความเสี่ยง 30 อย่างที่ต้องเฝ้าระวังในปี 2019

กระทู้ข่าว
ท่ามกลางความงุนงงว่าตลาดจะเอายังไงดี 3 วันดี 4 วันไข้

วันนี้มาสรุปความเสี่ยง 30 อย่างที่ต้องเฝ้าระวังในปี 2019 โดย deutsche bank

ไม่ได้บอกว่าจะเกิดนะครับ แต่เราแค่เฝ้าระวังและทำการบ้านรับมือไว้ครับ

=============

1. โลกการลงทุนจะถูกขับเคลื่อนด้วยระบบ Algo (ระบบเทรดอัตโนมัติ) อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงจากแรงขายในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้



2. การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนและยุโรปจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงตามไปด้วย



3. การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนและยุโรปอาจจะทำให้เกิดการแข็งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างมีนัยยสำคัญ



4. ลดการประมูลพันธบัตรสหรัฐ และ/หรือ ลดความต้องการซื้อพันธบัตรเมื่อเทียบกับปริมาณขาย



5. ปริมาณออกขาย ตั๋วเงินคลัง (ตราสารหนี้ระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี) ซึ่งจะทำให้ส่วนต่างระหว่าง LIBOR-OIS spread กว้างมากขึ้น (ส่วนต่างระหว่าง LIBOR และ Overnight Indexed Swap rate) ความเสี่ยงก็มากขึ้น



6. ออกพันธบัตรสหรัฐมากขึ้นจะดึงเงินออกจาก ตลาดพันธบัตรจำพวก investment grade (รุ่นที่มีอันดับความน่าเชื่อดีๆ) และตลาดหุ้น



7. ต้นทุนการทำ Hedging (ป้องกันความเสี่ยง) สูงขึ้น ทำให้นักลงทุนยุโรปและญี่ปุ่นมีความต้องการซื้อพันธบัตรสหรัฐลดลง



8. การยุติการใช้มาตรการ QE ของธนาคารกลางยุโรป จะทำให้ความต้องการซื้อพันธบัตรของทั้งโลกลดลง



9. การชะลอการใช้มาตรการ QE ของธนาคารกลางญี่ปุ่น จะทำให้ความต้องการซื้อพันธบัตรของทั้งโลกลดลง



10. Inverted Yield Curve หรือ สภาวะที่ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้นเช่น 2 ปี มากกว่าพันธบัตรรัฐบาลอายุยาว เช่น 10 ปี จะทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นลดลง



11. การลดภาษีนิติบุคคลในสหรัฐจะทำให้บริษัทจดทะเบียนซื้อหุ้นตัวเองคืนมากขึ้น แต่จะไม่ลงทุนมากขึ้น



12. ผลกระทบจากความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะปิดหน่วยงานราชการ หรือ government shutdown



13. ถ้าไม่สามารถสรุปข้อตกลงจาก Brexit (สหราชอาณาจักรแยกตัวจากสหภาพยุโรป) ภายในช่วงเดือน มีนาคมนี้ จะส่งผลลบต่อตลาดลงทุน



14. ถ้าไม่สามารถสรุปข้อตกลง Brexit (สหราชอาณาจักรแยกตัวจากสหภาพยุโรป) จะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจอังกฤษและเศรษฐกิจยุโรปทั้งหมด



15. สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน จะหนักหน่วงมากขึ้น



16. สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-ยุโรป จะหนักหน่วงมากขึ้น



17. ธนาคารกลางสหรัฐจะเลิกให้ความสนใจอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าแรง อาจจะกระทบกับอัตราการทำกำไร



18. ธนาคารกลางสหรัฐจะเลิกให้ความสนใจอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าแรง อาจจะกระทบกับตัวเลขคาดการณ์ของอัตราเงินเฟ้อ



19. ความตึงเครียดม็อบเสื้อกั๊กเหลืองในฝรั่งเศส



20. การเลือกตั้งรัฐสภายุโรป



21. อัตราเงินเฟ้อในตลาดบ้านนนเยอรมนี



22. ปัญหาสภานะทางการเงินการคลังในอิตาลี



23. ตลาดบ้านนพัง (ฟองสบู่แตก) ในออสเตรเลียและแคนาดา



24. มาตการกระตุ้นเศรษฐกิจ เริ่มใช้ไม่ได้ผลในจีน



25. การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของจีนจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์เคยคาดการณ์ไว้



26. อัตราการเติบโตเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหยุดชะงักลงโดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวเศรษฐกิจจีน



27. ความเสี่ยงการเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองในตลาดเกิดใหม่เช่น อินเดีย, อาร์เจนตินา, แอฟริกาใต้, และอินโดนีเซีย



28. ความเหลื่อมล้ำบนโลกใบนี้เพิ่มมากขึ้น



29. ธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรปเริ่มทำ QE อีกครั้ง แต่สินทรัพย์เสี่ยงจะไม่บวกแรงแล้ว



30. นโยบายการเงินและการคลังหมดกระสุนแล้ว และโลกจะเผชิญกับภาวะ Minksy moment หรือ สถานการณ์ที่ระดับหนี้ถึงจุดแตกหัก และทำให้ราคาสินทรัพย์ลดลงอย่างรวดเร็ว


ที่มา : https://www.tam-eig.com/2018/12/22/30-things-on-watch-list-for-2019/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่